หลายคนอาจจะเคยได้ยินได้ฟังเรื่องทฤษฏีการจัดระบบความคิดด้วยแผนภาพมาแล้ว โดยหลักการก็คือ เราจะต้องสร้างระบบความคิด หรือแผนผังความคิด ออกมาเป็น แผนภาพความคิดลงบนกระดาษ เพื่อที่เราจะได้รวบรวมระดมเรื่องราวที่เกี่ยวข้องเฉพาะเรื่องนั้นๆ ซึ่งจะทำให้เรามุ่งความสนใจลงไปที่เรื่องนั้นๆ ไม่ให้ความคิดของเรา กระจัดกระจาย ซึ่งจะส่งผลให้เป้าหมาย หรือหัวข้อที่เรากำลังสนใจ บรรลุวัตถุประสงค์อย่างรวดเร็ว เนื่องจากในบางครั้งมนุษย์เราสามารถสูญเสียสมาธิได้โดยง่ายในขณะที่เรากำลังคิดเรื่องใด เรื่องหนึ่ง ซึ่งถ้าหากเราสามารถนำเอาความคิดมาต่อๆกันไปเรื่อย ก็ย่อมสามารถทำให้เราไม่หลงลืมในเรื่องที่เราคิดไว้แล้ว และสามารถมาคิดต่อเนื่องต่อไปได้ และแน่นอนว่า ความคิกดเหล่านั้น ย่อมประติดประต่อออกมาเป็นเรื่องราว ที่ไปในทิศทางเดียวกัน ซึ่งย่อมส่งผลอันดี ต่อระบบความคิดของเราอีกด้วย
ขอยกเอาประวัติของหลักการจัดระบบความคิดที่ชื่อเจ้า Mind Map มาสักหน่อย
"....มายด์แม็ป หรือ แผนที่ความคิด หรือ ผังมโนภาพ (Mind Map) คือ แผนภาพที่แสดงความคิดที่เชื่อมโยงกับเหมือนกับการเชื่อมโยงของเซลประสาทในสมอง โดย ใช้คำ ภาพ หรือสัญลักษณ์ที่เชื่อมโยงกันแล้วแผ่เป็นรัศมีออกไปจากศูนย์กลาง การวาดแผนที่ความคิดถูกใช้เป็นเครื่องมือนำเสนอประเด็นจากการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ หรือ การนำเสนอความคิด ที่ช่วยให้การสรุปประเด็นมีความชัดเจนผ่านเครื่องมือที่เรียกว่าแผนที่ความคิด (Mind Map)
ความเป็นมาของแผนที่ความคิด เกิดจาก โทนี บูซาน (Tony Buzan) ชาวอังกฤษพยายามนำเอาความรู้เรื่องสมองมาปรับใช้กับการเรียนรู้ของเขา ซึ่งปรับมาจากการจด บันทึกแบบเดิมที่จดด้วยดินสอเป็นบรรทัดมาใช้คำ ภาพ สัญลักษณ์ที่เชื่อมโยงกันแล้วแผ่เป็นรัศมีออกไปจากศูนย์กลาง เหมือนการแตกแขนงของกิ่งไม้ ต่อมาเขาพบว่า วิธีนี้สามารถใช้ได้กับกิจกรรมที่หลากหลาย เช่น การวางแผน การสรุปบทเรียน การช่วยจำ การนำเสนอ การยกร่าง การจับประเด็น เป็นต้น ต่อมาเขาเขียนหนังสือ Use You Head (ใช้หัวคิด) และ Get Ahead (ใช้หัวลุย) ร่วมกับแวนด้า นอร์ธ (Vanda North) และนายธัญญา ผลอนันต์ ผู้แปลเป็นฉบับภาษาไทย...."
ที่มา : สุวิทย์ มูลคำ. การเรียนรู้สู่ครูมืออาชีพ กรุงเทพฯ : บริษัท ที.พี.ปรินท์ จำกัด 2543
ในอดีตเราอาจะต้องเขียน Mind Map ลงบนกระดาษ แต่ในปัจจุบันเรามีโปรแกรมในการช่วยเราสร้าง Mind Map มากมาย ทั้งที่เป็นแบบเสียเงิน และแบบ Free Software และแบบ Open Source ให้เราเลือกใช้มากมาย ซึ่งในวันนี้ ผมจะมาแนะนำโปรแกรมช่วยสร้าง Mind Map แบบไม่ต้องเสียเงิน ซึ่งแน่นอนครับ ฟังก์ชั่นอาจจะไม่หรูหรา มากนัก แต่ด้วยความของโปรแกรมที่มีอยู่ก็เพียงพอแล้วครับ เรามาดูกันเลยว่าโปรแกรมที่ช่วยสร้าง Mind Map ที่ชื่อโปรแกรม Free Mind ใช้งานยังงัย
รันโปรแกรม FreeMind
- สำหรับวินโดวน์ หลังจากติดตั้งโปรแกรมเรียบร้อยแล้ว ให้ดับเบิลคลิกไฟล์ Freemind.exe หรือ
- หากมีปัญหาเนื่องจาก ระบบปฎิบัติการ ให้ทำการดับเบิลคลิกไฟล์ freemind.jar แทนได้ ซึ่งอยู่ใน folder /bin ที่เราติดตั้งโปรแกรม FreeeMind ไว้
คู่มือการใช้งาน Free Mind
สามารถดู Online ได้ ที่นี่ หรือสามารถเลือกดูได้จาก Help -> Document ที่ menu ของโปรแกรม FreeMind หากเปิดไม่ได้ ให้ลองทำการเช็ค path ดู อาจะเรียกผิด ให้เปลี่ยน URL path ของ doc ไปที่ file:C:/Program Files/FreeMind/doc/freemind.mm
ความต้องการของระบบเมื่อต้องการติดตั้ง FreeMind
- Java Runtime Environment 1.4 หรือสูงกว่านั้น (สามารถเช็คได้ที่นี่ http://java.com/download/ )
- พื้นที่อย่างน้อย 13 MB
- RAM อย่างน้อย 512 MB
การติดตั้งโปรแกรม ให้เราดาวน์โหลดโปรแกรม Free Mind สำหรับวินโดวน์มากอ่น
1. ติดตั้งโปรแกรม Java Runtime Environment ก่อน หากคุณยังไม่ได้ทำการติดตั้ง
2. ลอง Free Mind ให้ตรงกับระบบปฎิบัติการของคอมพิวเตอร์ที่จะติดตั้ง
3. ดาวน์โหลด แล้วทำการติดตั้งไฟล์
4. ติดตั้ง FreeMind
เราใช้ FreeMind ทำอะไรได้บ้าง
- เก็บบันทึกโปรเจค ในที่นี้รวมถึงงานที่เราต้องการในโปรเจคนั้นๆด้วย
- เป็นที่เก็บไฟล์ที่เกี่ยวข้องกับโปรเจคนั้นๆ โดยเราสามารถใส่ลิ้งค์เชื่อมโยงเข้าไปในโปรเจคได้ ซึ่งเราสามารถที่จะค้นหาไฟล์ที่เกี่ยวข้องในโปรเจคนั้นๆ ได้อย่างรวดเร็ว และยังเป็นหมวดหมู่อีกด้วย
- นอกจากไฟล์ที่เกี่ยวข้องแล้ว เรายังสามารถที่เก็บลิ้งค์ของเว็บต่างๆที่เกี่ยวข้องกับงานที่เรากำลังค้นคว้าวิจัยได้อีกด้วย ซึ่งจะทำให้เกิดการเชื่อมโยงของเนื้อหา
- สามารถใช้บันทึกความคิดในที่ประชุมแบบระดมความคิดได้เป็นอย่างดี ซึ่งจะทำให้ความคิดที่ช่วยกันคิดดูเป็นรูปเป็นร่าง และยังอาจนำไปสู่การแก้ไขปัญหาได้รวดเร็ว มากยิ่งขึ้น
- สะสมความรู้เพิ่มเติม ต่อยอดความรู้ ให้สูงๆ ขึ้นไป
ตัวอย่างหน้าต่างโปรแกรม FreeMind
สรุปว่า โปรแกรม FreeMind เป็นโปรแกรมที่ผมอยากแนะนำให้คนไทยทุกๆคนนำไปใช้ หากไม่สะดวกจริงๆเราก็ยังสามารถที่จะเขียน MindMap ของเราลงบนกระดาษก็ได้ คิดว่าถ้าเราได้นำหลักการของ FreeMind หรือ MindMap ไปใช้แล้วหล่ะก็ ประเทศชาติของเราจะพัฒนาได้ไกลกว่านี้แน่นอน
ดาวน์โหลดโปรแกรท FreeMind ได้ที่นี่